มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้จัดโครงการ “มหาวิทยาลัยขอนแก่นเชื่อมโยง SMEs เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ระยะที่ 1 (KKU Linkage for SMEs Competitive Competency : Phase 1)” โครงการเพื่อยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมให้เท่าทันโลก และตอบสนองบทบาทของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในเรื่อง Caring: ความใส่ใจ ห่วงใยต่อสังคม และ Connecting : การเชื่อมโยงองค์ความรู้จากภาควิชาการสู่ผู้ประกอบการ SMEs โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองศาสตราจารย์ ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์คำพงษ์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ชูพงษ์ ทองคำสมุทร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าขอนแก่น ให้เกียรติแถลงข่าวโครงการฯ ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โครงการ “มหาวิทยาลัยขอนแก่นเชื่อมโยง SMEs เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ระยะที่ 1 (KKU Linkage for SMEs Competitive Competency : Phase 1)” เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น และผู้ประกอบการร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ริเริ่มสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงบูรณาการ จากมติที่ประชุมหารือร่วมระหว่างคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา เห็นชอบที่จะดำเนินการโครงการเพื่อยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมให้เท่าทันโลก และตอบสนองบทบาทของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในเรื่อง Caring: ความใส่ใจ ห่วงใยต่อสังคม และ Connecting : การเชื่อมโยงองค์ความรู้จากภาควิชาการสู่ผู้ประกอบการ SMEs โดยกำหนดแนวทางการดำเนินงานไว้ดังนี้ 1.) ศึกษาความต้องการในการพัฒนาปรับปรุงร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อม และจัดทำฐานข้อมูล (Database) ของร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ในเขตจังหวัดขอนแก่น 2.) ให้คำปรึกษาแนะนำและพัฒนาการจัดการระบบการบริหารงานร้านขนาดกลางและขนาดย่อมนำร่อง 3.) ออกแบบรูปลักษณ์ภายใน ภายนอก และการจัดวางสินค้าสำหรับร้านขนาดกลางและขนาดย่อมนำร่อง
จากแนวทางการดำเนินงานข้างต้น เพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับร้านขนาดกลางและขนาดย่อมได้แบ่งเป็น 3 โครงการย่อย ได้แก่
โครงการย่อยที่ 1 เรื่อง “การศึกษาความต้องการและการจัดทำฐานข้อมูลร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อมจังหวัดขอนแก่น” ซึ่งเป็นการจัดทำฐานข้อมูลขึ้นเพื่อจัดระบบข้อมูล และดึงข้อมูลไปสู่การบริการวิชาการแก่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย ธุรกิจร้านขายของชำ ธุรกิจท่องเที่ยวและไมซ์ ธุรกิจร้านโรงแรมและร้านอาหาร ธุรกิจรับจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ธุรกิจรับจดทะเบียนบัญชี บริษัทหลักทรัพย์การเงินการธนาคาร โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดลฤทัย โกวรรธนกุล เป็นหัวหน้าโครงการ
โครงการย่อยที่ 2 เรื่อง “การจัดการร้านค้าปลีกอัจฉริยะ” โครงการเพื่อปรับปรุงระบบหรือแก้ไขปัญหาการจัดการภายในร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านค้าในชุมชนเพื่อเป็นร้านค้านำร่องหรือร้านค้าต้นแบบด้านการจัดการร้านค้าปลีกสำหรับร้านค้าประเภทเดียวกันโดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อารีย์ นัยพินิจ เป็นหัวหน้าโครงการ
โครงการย่อยที่ 3 เรื่อง “การออกแบบรูปลักษณ์ภายใน ภายนอก และการจัดวางสินค้าสำหรับร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อม” เพื่อเป็นการปรับปรุงร้านค้านำร่องทางด้านกายภาพและภาพลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง เพื่อส่งเสริมการขาย และเป็นแบบอย่างในการปรับปรุงร้านค้าย่อยอื่นๆประเภทเดียวกัน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชำนาญ บุญญพุทธิพงศ์ เป็นหัวหน้าโครงการ
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าปลีกขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้าร่วมโครงการฯ นำร่องเป็นผู้ประกอบการใน 10 ชุมชนนำร่องในเขต อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้แก่ ชุมชนบ้านทุ่ม ชุมชนบ้านศิลา ชุมชนบ้านโนนม่วง ชุมชนการเคหะชุมชนกังสดาล ชุมชนบ้านเป็ด/บ้านคำไฮ ชุมชนพระลับ ชุมชนท่าพระ ชุมชนบ้านสีฐาน ชุมชนบ้านกอก โดยรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบไปด้วย ร้านพรพระพาณิชย์ (ต.ศิลา) ร้านสวาทพานิช (ต. บ้านทุ่ม) ร้านเถิดเทิงพานิช (ต.บ้านทุ่ม) ร้านพิไลมินิมาร์ท (ต. บ้านเป็ด) ร้านคมกริช (ต.ในเมือง) ร้านธรรมพฤกษ์ (ต.ศิลา) ร้านดรุณี (ต.แดงใหญ่)ร้านน้ำมนต์ (ต. บ้านเป็ด) ร้านปณิดาบ้านสวน (ต.ท่าพระ) ร้านต้นอ้อยมินิมาร์ท (ต.ในเมือง)ซึ่งอนาคตโครงการนี้จะเป็น Model ต้นแบบ สำหรับการดำเนินงานเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการฯ ทั้งจังหวัดขอนแก่นต่อไปในอนาคต